|
"ทำไมบางคนชอบเสียงจาก คาสเซทเทป มากกว่าCD หรือ ชอบ เสียงจาก เทปม้วนเปิด Openreel มากกว่าจากแผ่นเสียงหรือ CD" โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ จำได้ว่าในยุคแรกสุดที่แผ่นและเครื่องเล่น CD ออกสู่ตลาด หลายคนบ่นว่า เสียง CD จัด แข็ง ระคายหู ต้องใช้เวลา3-4 ปีต่อมา กว่าชาวบ้านจะเริ่มยอมรับ และร่วม 15 ปี กว่าวงการไฮเอนด์จะยอมรับ ให้มันเข้าคอกไฮเอนด์ได้ ในช่วงแรกสุด มีการนำเสนอให้ข้อคิดว่า ถ้าบันทึกCD ลงคาสเซทเทป แล้วเอามาฟัง เสียงจะน่าฟังขึ้น ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น ? เราคงทราบอยู่แล้วว่าระบบการบันทึกเทป หัวเทป (หัวเล่น , หัวบันทึก) และสายเทป ล้วนมีปัญหาการอิ่มต้วของเส้นแรงแม่เหล็กที่หัวเทป และที่สายเทป(ที่กลายเป็นแม่เหล็กหลังถูกบันทึกแล้ว ) ยิ่งบันทึกแรงแค่ไหน การอิ่มตัวจะยิ่งมากและฟังออกชัดขึ้น (saturation) การอิ่มตัว จะลดการสวิงของเสียง หรือพูดอีกอย่างคือ จะกดการสวิงดังสุดของเสียง เรียกว่าcompress เสียงเอาไว้ ทำให้เกิดความเพี้ยนคู่ควบที่ 2 , 4 ,8 แถมออกมาเป็นขโยง ทำให้เสียง อิ่ม อวบ ขี้น การสวิงเฉื่อยลง เสียงเหมือนช้า ผ่อนคลายขึ้นความกังวาลถูกยกประคองให้จางช้าลง ฟังเหมือนความกังวาลมีมากขึัน มวล เนื้อเสียง มีมากขี้น อวบอิ่มขึ้น ทำให้ฟังรายละเอียดที่หยาบๆได้ชัดเจนขึ้น แต่ เสียงผิว( texture)ไม่ได้ดีขึ้น ความสด โปร่งพริ้ว ประกายระยิบระยับของปลายแหลมไม่มีเท่าที่ควรคือเหมือนขุ่นขึ้น การสวิงลดลง ช้าลง เสียงทุ้มเหมือนมี ปริมาณมากขึ้น ทำให้หลอกหูเหมือนตัวตนดีขึ้น ความโปร่งทะลุลดลง เหมือนมีม่านหมอกในวง ถ้าดนตรีดังขี้นมาหลายๆชิ้นพร้อมๆกัน จะวุ่นวายสับสน มั่ว และกอดกัน ทรวดทรงชิ้นดนตรี ไม่โฟกัส นิ่ง แต่จะวอกแวก เดี๋ยว ชัด เดี๋ยวฟุ้งบวม การที่ การสวิงแรงสุดถูกกดให้ตื้อ ทำให้ลดภาระของภาคขยายและลำโพง ไม่ต้องสวิงกำลังขับสูงลิบเฉียบพลัน( Transient peak) จนภาคขยายเครียด เกิดความเพี้ยน โดยเฉพาะที่ปลายแหลม ( ความเพี้ยนแบบTIM หรือ Transient Inter Modulation)เสียงจัด สกปรก แสบ กัดหู การที่ระบบเทปเป็นอนาลอก เวลาเล่นกลับ คลื่นความถี่สูงที่เกิดจากระบบดิจิตอล(กรณีเล่นCDตรง) สุดท้าย พิจารณาจากสเปคแล้ว ระบบเทป ต่อให้เป็นแบบม้วนเปิดopen reel บันทึกที่ความเร็วสูงสุดหรือ จานเสียงปกติ ก็ไม่มีทางเทียบกับระบบCD ที่ช่างบันทึกปัจจุบันรู้แล้วว่าจะจัดไมค์ ปรับเสียงเพื่อการทำCDได้อย่างไรแต่ต้นเลย สปคก็แตกต่างโดยเฉพาะ การตอบสนองความถี่ การสวิงค่อยสุดไปดังสุด(dynamic range), การแยกสเตอริโอ( stereo separation) , อัตราส่วนสัญญาณต่อเสียงกวน (S/N) ข้อคิดข้างต้น ใช้ได้กับทั้งเทปคาสเซท เทปม้วนเปิด Openreel นี่ยังไม่นับ จำนวนอัลบั้มเพลงในรูปของเทปคาสเซทและ Openreel ที่เทียบผงธุลี เมื่อเทียบกับอัลบั้มเพลงCD ที่ปัจจุบันน่าจะไม่ต่ำกว่า 10 ล้านอัลบั้ม คุณจะลงทุนเล่นOpenreel เพื่อฟังเพลงแค่ไม่ถึง 10 อัลบั้มหรือนักเล่นเทป Openreel ที่มือหนัก รวยจริง กล้าจ่าย ม้วนเทปเพลงมาสเตอร์ 1 ม้วน 1อัลบั้ม 8,000-13,000 บาท ถามจริงๆ มั่นใจ เชื่อใจได้อย่างไร ว่า เป็นมาสเตอร์เทปจากสตูดิโอจริง พวกกล่อง สติกเกอร์ มันทำปลอมได้หมดแหละ แฉกันด้วยเหตุด้วยผลทางไฟฟ้า ฟิสิกส์ ขนาดนี้แล้ว ใครยังศรัทธาอยากเล่น คาสเซท, Openreel อีกก็ตามใจ เงินของคุณ แต่ถ้าใครอยากเล่นเพราะมีเทปบันทึกเก็บไว้เยอะ หรือต้องการ บรรยากาศการเล่น อารมณ์เก่าๆสมัยเด็ก นั่นก็อีกเรื่อง ไม่ว่ากัน www.maitreeav.com |